ในวันที่ยุ่งเหยิงด้วยการงาน
กับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่มีในบ้านสุขง่ายงาม
ภาพถ่ายโดยแม่เอ๋
ในวันที่แม่เอ๋ จะต้องเตรียมตัวไปทำงานวาดภาพบนดอยช้าง อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย แม่เอ๋มีงานซักผ้า…..และเตรียมแพ็คของส่งลูกค้าทาง shopee รวมทั้งจัดออเดอร์ถ้วยจาน เป็นวันที่เวลาน้อยมาก ๆ จบเที่ยงไปด้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่มีในบ้านค่ะ นับจากช่วง covid ระบาด จนถึงทุกวันนี้ บ้านน้อย
หลังนี้ของแม่เอ๋ ก็มีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปหลากหลายรสชาติหลากหลายยี่ห้อ เป็นเมนูตัวเลือกในนาทีเร่งด่วน แถมเป็นตัวช่วยในการประหยัดเวลาด้วยค่ะ
วันนี้มื้อเที่ยงแม่เอ๋เลือกกิน บะหมี่สำเร็จรูปรสหมูสับ โดยแกะห่อแล้วหยิบเส้นบะหมี่วางลงในถ้วย และเดินไปกดน้ำร้อนใส่ถ้วย แล้วนำเครื่องปรุงที่มีในซอง ฉีกลงไปบนถ้วยผสม และรอ 3 - 5 นาที โดยประมาณ ก็ได้กินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในมื้อเที่ยงนี้อย่างเอร็ดอร่อย โดยที่ไม่ต้องตากแดดออกไปข้างนอกประหยัดเวลาเดินทางอิ่มง่าย ๆ ในเที่ยงนี้ค่ะ
นั่งกินไปพลางก็นึกถึงครั้งแรก ที่กินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเมื่อยังอยู่ในวัยเด็ก รู้จักบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปช้างน้อย ห่อละ 2 บาท รสข้าวโพด
ชอบกินมาก เพราะในสมัยก่อนขนมกรุบกรอบค่อนข้างมีให้เลือกน้อย โดยเฉพาะเวลาตอนเที่ยง ๆ หลังพักกลางวัน เมื่อไปโรงเรียนใครที่มีเงินค่าขนมมากหน่อย กินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปซองใหญ่ เป็นขนมหรือของว่าง และเพื่อนผู้ได้รับเงินค่าขนมมาโรงเรียนเยอะกว่าใครก็จะซื้อบะหมี่สำเร็จรูปมาแบ่งเพื่อน ๆ กินตอนกลางวัน เป็นช่วงเวลาแห่งความประทับใจ เพราะเป็นปีสุดท้ายที่ได้เรียนและจบจากชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 บะหมี่สำเร็จรูปรสต้มยำกุ้ง จึงอร่อยเป็นพิเศษ เป็นของโปรดและอร่อยมาก
เนื่องจากการก้าวเข้าสู่การเป็นวัยรุ่น เริ่มฝึกหัดกินเผ็ดเป็นบ้างแล้ว และเพราะทุกคนจะจบการศึกษา และจะต้องแยกย้ายกันไปเรียนตามโรงเรียนต่าง ๆ ที่ตนเองสอบได้ หรือบางคนก็ย้ายตามผู้ปกครอง และไม่ได้เจอกันอีกเลยก็มี
การกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปดิบ โดยไม่ใส่น้ำร้อน เป็นความทรงจำในวัยเด็กที่ประทับใจอีกด้วยท เพื่อนคิดดูสิคะ มิตรภาพของเด็กต่างจังหวัด
ที่ซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป มานั่งกินด้วยกัน แบ่งกันไม่รู้ มือใครเป็นมือใคร ผลัดกันหยิบเข้าปากมี 5 - 6 คน บ้างเลียมือ…...บ้างเผ็ด …….บ้างอร่อย น้ำหูน้ำตาไหล ผสมเหงื่อไคลตอนเที่ยง ๆ เดือนมีนาคม เสียงหัวเราะยิ้มไปแย่งกันกินไป มันสนุกสนานขนาดไหนไม่รู้ น้ำลายใครเป็นน้ำลายใคร สนุกอร่อยจนกระทั่งเลียห่อบะหมี่สำเร็จรูปเลยทีเดียว
วกกลับมาที่บะหมี่สำเร็จรูปรสต้มยำกุ้งที่อร่อย และแซ่บเผ็ดเป็นพิเศษจะมีรสเปรี้ยว ๆ ด้วยไม่รู้มายังไงก็ยังสงสัยมาจนถึงทุกวันนี้ และจำรอยยิ้มเสียงหัวเราะ ความประทับใจ ในวัยเด็กวันนั้นได้ดี
ภาพถ่ายโดยแม่เอ๋เองค่ะ
แม้ในช่วงที่เรียนหนังสือชั้นอุดมศึกษา ทางบ้านก็จะให้เงินรายเดือน ช่วงปลายเดือนนั้นต้องใช้จ่ายอย่างประหยัด และก็มีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนี้ล่ะค่ะ ทำให้เรียนจบ รอดชีวิตผ่านมาได้จนถึงทุกวันนี้ สมัยเรียนช่วงดึก ๆ ทำงานส่งอาจารย์ระหว่างที่ทำปริญญานิพนธ์ แม่เอ๋ในวันนั้น ก็กินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกับเพื่อน ๆ โดยนำมาใส่ในแก้วกาแฟเพราะว่าไม่มีถ้วย มีความรู้สึกสนุก และก็หัวเราะกันไปมาในระหว่างเพื่อน เป็นความทรงจำ ว่าเราไม่มีถ้วย แล้วก็เอาบะหมี่ใส่แก้วแล้วก็ใส่น้ำร้อน ก็ใช้ได้เหมือนกัน กินได้เหมือนกัน เป็นการเรียนรู้ในความคิดสร้างสรรค์ ในการกินบะหมี่สำเร็จรูป เห็นไหมคะเติบโตไปพร้อม ๆ กับเพื่อน ๆ แต่ละช่วงวัยและมิตรภาพในวัยเรียนของแม่เอ๋ ก็จะมีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมีบทบาท อยู่ในความทรงจำนั้นด้วย และมีการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบถ้วยตามสมัยนิยมตามมา
ในขณะที่กินอยู่ ก็นึกถึงว่าครั้งแรก ที่ต้มให้คุณสามีกิน สล่าสามีเคยบอกว่าที่บ้านคุณสามี คุณปู่พ่อคุณสล่าสามีแม่เอ๋นั้น ท่านได้สอนสล่าว่า ไม่ให้กินมาม่าเปล่า ๆ แต่ถ้าจำเป็นต้องกิน ก็ต้องใส่ ผัก หรือเนื้อ ไข่ และ อะไรที่มีประโยชน์ลงไปด้วย ไม่ใช่กินแต่เส้นกับน้ำเปล่า ๆ เพราะว่าไม่มีประโยชน์ แต่แม่เอ๋ก็แอบเถียงในใจเบา ๆ ว่าก็มันอร่อยนี่นา ทำให้ได้ข้อคิดจากผู้ใหญ่ที่เขาเป็นห่วงและรัก ว่าถ้าหากเราจะกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป……
เราก็ควรใส่ผัก อาทิ ผักคะน้า และไข่ ลงไปในบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปด้วย หรือกระทั่งเนื้อปลา ลูกชิ้น ต่าง ๆ ก็ใส่ลงไปได้ เช่นกันจะทำให้บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ของเรามีคุณค่ามากยิ่งขึ้น
จนกระทั้งตอนนี้มีลูกสองคน ในวันเวลาที่ตระเตรียมสิ่งใดไม่ทัน บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปก็เป็นตัวช่วยของแม่เอ๋แต่ไม่ลืมลูกชิ้นและผักนะคะยกเว้นกินเองคนเดียวจะใส่น้ำร้อนและกินเลย ทำให้นึกสงสัยว่า บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาจากไหนนะจะเล่าให้ฟังนะเพื่อน
แม่เอ๋ได้ไปอ่านประวัติของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ได้ความว่า บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมีต้นกำเนิดหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จากประเทศญี่ปุ่นโดยคุณโมโมฟุคุ ได้เห็นผู้คนรับแจกขนมปัง และไม่ได้มีความสุขเลยจึงคิดค้นการทำบะหมี่สำเร็จรูปขึ้นโดยการนำบะหมี่ไปทอด และนำมาอบให้แห้งเป็นการถนอมอาหารอย่างหนึ่ง หลังจากนั้นนำมาลวกรับประทานโดยเติมน้ำร้อนลงไป 3 ถึง 5 นาที หลังจากนั้นเป็นต้นมาจึงเป็นที่นิยมแพร่หลายจนกระทั่งปัจจุบันในประเทศไทยก็มีบริษัทบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเกิดขึ้นหลายหลากยี่ห้อมากมายมีหลากหลายรสชาติเช่นมีรสหมูสับ รสต้มยำ https://th.wikipedia.org/wiki/บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
ภาพถ่ายโดยแม่เอ๋
รสต้มยำกุ้ง รสก๋วยเตี๋ยวเรือ รสลาบ รสหอยลายผัด รสเป็ดพะโล้ รสเจ จนในปัจจุบันมีกระทั่งเส้นราเมน เส้นราเมนก็มีรสชีส รสบะหมี่เกาหลี
และที่ผ่านมาทุกยุคทุกสมัย ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจดีหรือไม่ดีส่วนใหญ่ดูกันที่ราคาบะหมี่สำเร็จรูปนะคะ ไม่ฟันธงว่าเศรษฐกิจดีหรือไม่ดีให้ เพื่อน ๆ ไปดูในซุปเปอร์มาเก็ตดูราคาบะหมี่สำเร็จรูปและดูยอดขายนะคะ ว่าบะหมี่สำเร็จรูปขายดีหรือไม่นะคะ แต่ถึงยังไงเรื่องราคาก็ไม่ได้เป็นประเด็นค่ะ มาจากเรื่องสะดวกสำเร็จรูป แล้วก็ประหยัดเวลามากกว่าค่ะ บะหมี่สำเร็จรูปจึงเป็นที่นิยม จากราคาขาย 4 บาท 5 บาทเพิ่มขึ้นมาเป็น 40 บาทจนถึงราคา 80 บาทมีจำหน่ายในซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไปในประเทศไทย และร้านขายของต่าง ๆ ซึ่งแสดงว่าเป็นที่นิยมแพร่หลาย
จากประวัติการคิดค้นการพัฒนาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมีที่มาจากความสุข ฉะนั้นไม่แปลกใจที่ไม่ว่าตัวแม่เอ๋เอง หรือเด็ก ๆ รวมทั้งผู้คนต่าง ๆ ชอบกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ก็จะมีความสุขง่าย ๆ simple ในบ้านได้โดยประหยัดเวลาก็เป็นอาหารที่ผู้เขียนกินแล้วมีความสุขง่าย ๆ ในวันนี้
ภาพถ่ายโดยแม่เอ๋
ไม่ว่าการเดินทางของชีวิตสี่สิบกว่าปีของแม่เอ๋จะ ผ่านมาจนกระทั่งถึงทุกวันนี้
บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปก็ยังคงอยู่ในชีวิตแม่เอ๋ น่าจะทุกช่วงเวลาของชีวิต และทุกช่วงวัยเลยก็ว่าได้
กระทั่งตอนที่จะเดินทางไปทำงานที่เชียงราย ก็ยังไม่ลืมที่จะนำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
ติดรถขึ้นไปด้วยเพราะไม่รู้ว่าข้างหน้าจะมีอาหารถูกปากหรือเปล่า
บนดอยช้างที่เราไปทำงานอย่างน้อยเรามีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
แล้วก็รู้สึกอุ่นใจที่คนที่แม่เอ๋รัก คือคุณสามีและลูก ๆ จะยังได้กินของอร่อยและเป็นของโปรดซะด้วย
ต่อไปในอนาคตคงมีรสใหม่ ๆ ออกมาทำให้ผู้คนที่กินมีรสชาติที่เลือกหลากหลายมากขึ้นแน่ ๆ
ว่าไหมคะ คุณผู้อ่านละคะ ชอบบะหมี่สำเร็จรูปรสอะไร……………..
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น