วันเสาร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2563

ALOE & COCO GEL ORGANIC เจลดี ๆ ที่ไม่มีอะไรมากั้น

 



 ALOE & COCO GEL ORGANIC

เจลดี ๆ ที่ไม่มีอะไรมากั้น

ภาพแม่เอ๋ถ่ายเองจ้า



เข้าสู่ฤดูเหมันต์ ผิวแห้งแตกกันไหมคะเพื่อน ๆ 

            แม่เอ๋ มีเรื่องราว ดี ๆ มาบอกจ้า   

เรื่องมีอยู่ว่า ครบหนึ่งปีพอดีค่ะ ที่แม่เอ๋รู้จักเจลว่านหางจระเข้ 

ผสมน้ำมันมะพร้าวออแกนิค ALOE & COCO GEL ORGANIC


ผิวแพ้ง่ายใช้อะไรก็กลัวสารเคมี

 แม่เอ๋ชอบตรงที่เป็นออแกนิค จึงนำมาใช้และบอกต่อ 

นำมารีวิว 6 วิธีใช้เจล ALOE & COCO GEL ORGANIC

ด้วยเหตุที่แม่เอ๋ผิวแห้ง ชอบใช้เจลว่านหางจระและชอบใช้น้ำมันมะพร้าว 

พอรู้ว่ามีตัวนี้ คือโดนมาก ชอบมาก คือต้องใช้ค่ะเพื่อน ๆ 


ภาพแม่เอ๋ถ่ายเองจ้า


เนื้อเจลใส ALOE & COCO GEL ORGANIC  ซึมเข้าผิวไวค่ะ 

มีกลิ่นน้ำมันมะพร้าวจากเจล ALOE & COCO GEL ORGANIC หอมอ่อน ๆ ชื่นใจ เวลาใช้ค่ะ

หนึ่งหลอดใหญ่ ALOE & COCO GEL ORGANIC  ใช้ได้นานหลายเดือนเลยค่ะ 



ว่านหางจระเข้ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นคืนความชุ่มฉ่ำ ฉ่ำน้ำให้ผิว

น้ำมันมะพร้าวบำรุงผิว มีวิตามินอี ทำให้ฝ้า กระ จุดด่างดำต่าง ๆ 

แลดูจางลง ผิวแลดูฉ่ำน้ำ ชุ่มชื้น



รีวิว 6 วิธีใช้


  1. ใช้ ALOE & COCO GEL ORGANIC นวดบำรุงเส้นผม

  2. ทาหน้า ทามือ ด้วย ALOE & COCO GEL ORGANIC

  3. นวดบำรุงผิวพรรณ ด้วยALOE & COCO GEL ORGANIC

  4. เบคกิ้งโซดา ALOE & COCO GEL ORGANIC เจลอย่างละ 1 ช้อน สำหรับสครัปหน้า หรือ ตัว

  5. เกลือ ALOE & COCO GEL ORGANIC  เจลอย่างละ 1 ช้อน สำหรับสครัปหน้า หรือ ตัว

  6. ครีมรองพื้นที่กำลังจะหมด ALOE & COCO GEL ORGANIC ผสม  เจลอย่างละ 1 ช้อน สำหรับทำลงตลับแป้งคูชชั่น




                                https://www.youtube.com




จากงานมิตติ้งกลุ่ม100k subscribe ที่เชียงใหม่ แม่เอ๋ได้เจอเจ้าแบรด์ตัวเป็น ๆ  

ได้นั่งกินข้าวพูดคุยกับพี่หญิงบ้านไทยเฮิร์บ ได้ฟังเรื่องราวความเป็นมาของผลิตภัฑณ์ 

ที่พี่หญิงบ้านไทยเฮิร์บถ่ายทอดถึงการได้ช่วยเหลือให้ชาวบ้านมีงานทำ 

และผลิตแบรด์คุณภาพ ช่วงแรกจำหน่ายในโรงแรมห้าดาว 

เพิ่งเริ่มทำตลาดออนไลน์ไม่นานมานี้


สั่งซื้อผลิตภัณฑ์ได้ที่ https://www.facebook.com/BanThaiHerbShop


            โทร.061-187-1127    Email : banthaiherb@hotmail.com

 



ภาพจาก https://www.facebook.com/BanThaiHerbShop






ผู้เขียน   แม่เอ๋กาไก่อาร์ต   Kakaiarts

นางคุณัญญา  วงศ์วัง  อายุ  ๔๓ปี  แม่เอ๋ จบการศึกษาศิลปศาสตร์บัณฑิต   (ศป.บ.)

         คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ วิชาเอก นฤมิตศิลป์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

ติดตามผลงาน 

หรือทักทายกันได้ที่

Line ID : 0946697891

Phone Number : 094 669 7891  


Blog :  https://kakaiarts88.blogspot.com

Facebook Page : แม่เอ๋ kakaiarts

Email  :  kakaiarts@gmail.com





แม่เอ๋กาไก่อาร์ต





ผู้เขียน   แม่เอ๋กาไก่อาร์ต   Kakaiarts

นางคุณัญญา  วงศ์วัง  อายุ  ๔๓ปี  แม่เอ๋ 

จบการศึกษาศิลปศาสตร์บัณฑิต   (ศป.บ.)

            คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ 

วิชาเอก นฤมิตศิลป์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม


เป็นแม่ลูกสอง      ที่ลูกสองคนเป็นเด็กสองภาษา


แม่บ้านเต็มเวลา ผู้จัดการเรียนการสอนให้ลูก

เป็นนักออกแบบ

เป็นDesigner

เคยเป็นครูศิลปะ สอนให้กับสามเณร



เป็นแม่ที่พยายามจะเป็นแม่ที่ดีที่สุดให้ได้

   เคยขายของชำ ขายของตลาดนัด 

       ปัจจุบัน ประกอบอาชีพ 

เป็นบล็อกเกอร์  BLOGGER  , แม่ค้าออนไลน์ 


เขียน Blog นี้ขึ้นมาด้วย    วัตถุประสงค์ต้องการสื่อสารกับผู้คน


น้ำพริกอาข่าบนยอดดอยช้าง อร่อยตรึงใจ

 น้ำพริกอาข่าบนยอดดอยช้าง อร่อยตรึงใจ





ภาพถ่ายโดยแม่เอ๋



ช่วงเดือนตุลาคมปี 2563 พ่อสล่า ของไมด้าและนารา ได้รับการว่าจ้างให้ขึ้นมาวาดรูป   บนฝาผนังโบสถ์คาทอลิก วัดบุญราศี  บ้านดอยช้างใหม่หมู่ 27 ซอย 6 ตำบลดอยช้าง อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย แม่เอ๋โชคดี ที่พ่อสล่าให้มาช่วยทำงาน บนดอยช้างด้วย  ในฐานะผู้จัดการศิลปิน ผู้ช่วย ในวงเล็บแม่ครัว คนขับรถ แม่บ้าน คนเตรียมอาหาร คนซักผ้า จุดประสงค์แอบแฝงของแม่เอ๋ขึ้นมาหาข้อมูลในการเขียนบทความส่งครูพี่ลักษณ์  หรือเป็นข้ออ้างขึ้นมาท่องเที่ยวนั่นเอง จริงๆแล้วนับตั้งแต่มีลูก  แม่เอ๋ก็มีนิสัยใหม่เกิดขึ้น  นั้นก็คือการที่จะชอบเรียนรู้ต่อสิ่งต่าง ๆ  ทำให้ลูกเห็นเป็นตัวอย่าง  เมื่อห้าปีที่ผ่านมา  ครอบครัวพ่อสล่าและแม่เอ๋ทำบ้านเรียนให้ลูก  หรือเรียกว่าโฮมสคูลนั่นเอง เมื่อมีลูกคนแรกและลูกเริ่มที่ต้องไปโรงเรียน แม่เอ๋หาข้อมูลเยอะมาก จนจัดการเรียนการสอนโดยการจัดประสบการณ์ให้ลูกเรียนรู้เองที่บ้านโดยขออนุญาตกับทางเขตพื้นที่การศึกษา ตามกฏหมาย  พ่อ แม่เป็นผู้ส่งเสริมจัดหาการเรียนรู้ ของลูก


    เมื่อการเรียนรู้ได้กลายเป็นนิสัยส่วนตัวของแม่เอ๋ การขึ้นมาในครั้งนี้จึงมีความตื่นเต้นมาก ๆ เพราะขึ้นมาอยู่ใกล้ชิดกับชนเผ่าชาติพันธุ์บนดอยช้าง เป็นเวลานานเกือบ 1 เดือน บนดอยช้างนี้มี 3 ชนเผ่าก็คืออาข่า ลีซอ หรือลีซู  รวมทั้งจีนฮ่อ  ที่มาจากยูนนาน และมีอยู่ 2 หมู่บ้าน  ก็คือบ้านวาวีและบ้านดอยช้าง เรียกว่า 2 บ้านดอย 




ภาพถ่ายหมู่บ้านดอยช้าง แม่เอ๋ถ่ายเองค่ะ



ผู้คนบนนี้ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม 


 หรือทำไร่  ปลูกกาแฟ เชอรี่ สตรอเบอร์รี่ แมคคาเดเมีย ในไร่ของชาวบ้านมีผักผลไม้หลายอย่าง เช่น มะเขือเทศ กะหล่ำ ผักกาด เป็นต้น


      ที่เป็นอาหารหลักเห็นจะเป็นมะเขือเทศ หรือมะเขือส้ม ถือเป็นนางเอกในไร่เลยค่ะ  โดยนำมากินแนมผักสด ผักลวก แม่เอ๋ได้ลองชิมน้ำพริกมะเขือส้ม หรือ เรียกว่าน้ำพริกมะเขือเทศ เป็นครั้งแรกจากเด็กชาวเขา ที่ไปเรียนโรงเรียนสุนทรศึกษา โรงเรียนในการกุศลของวัดที่ลำปาง ซึ่งเป็นโรงเรียนที่อยู่ติดบ้านของแม่เอ๋ นานมาหลายปีแล้ว



   วันนี้หลังจากที่แม่เอ๋ เดินตามมายด้าเพื่อไปดูลำธารหลังโรงเรียน


แม่เอ๋ถ่ายเองค่ะ




 ด้านหลังของโรงเรียน เป็นโรงงานแม็คคาเดเมีย โดยกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเผ่าลีซู หรือลีซอ  


แม่เอ๋ถ่ายเองค่ะ



แม่เอ๋ถ่ายเองค่ะ



แม่เอ๋ถ่ายเองค่ะ





แม่เอ๋ถ่ายเองค่ะ






มีนมแม็คคาเดเมียให้ทดลองดื่มฟรีด้วย พี่ ๆ ชาวอาข่า กระซิบมา  และมีสินค้า ที่ทำจากแม็คคาเดเมียแปรรูป เป็นของฝาก หลายอย่าง รวมถึงครีมถนอมผิวจากแมคคาเดเมีย  น้ำมันจากแม็คคาเดเมีย



   หลังจากแม่เอ๋ และเด็ก ๆ ดื่มนมแม็คคาเดเมีย พี่เจ้าของร้าน ให้ชิมกาแฟสดที่ปลูกบริเวณหน้าผา ปลูกแซมป่าแบบอินทรีย์แล้ว เด็ก ๆ ทั้งหลายก็อยากเดินต่อเพื่อไปที่ลำธาร

แม่เอ๋จึงขอตัวลากลับ หมดไปสามร้อย


แม่เอ๋ถ่ายภาพเองค่ะ



แม่เอ๋ถ่ายภาพเองค่ะ


แม็คคาเดเมีย 2 ถุง

และน้ำมันแม็คคาเดเมียอีก 1 ขวด 


ภาพแม่เอ๋ถ่ายเอง


ภาพแม่เอ๋ถ่ายเอง


โดยขากลับจากลำธาร เดินกลับอีกฝั่งน้ำของหมู่บ้าน


ภาพถ่ายโดยแม่เอ๋เองค่ะ


  แม่เอ๋และเด็ก ๆ เดินผ่านไร่ที่ชาวบ้านปลูกฟักทอง


ภาพถ่ายโดยแม่เอ๋เองค่ะ


ภาพถ่ายโดยแม่เอ๋เองค่ะ



ภาพถ่ายโดยแม่เอ๋เองค่ะ




 ข้ามลำธาร มาขึ้นบันไดทางขึ้นกลับมาในหมู่บ้าน แต่เป็นการเดินขึ้นบันไดที่ชาวบ้านทำง่าย ๆ สูง และชัน บันไดร้อยขั้นเลย



ภาพถ่ายโดยแม่เอ๋เองค่ะ




 ซึ่งสำหรับแม่เอ๋ซึ่งมีนำ้หนัก 80 กิโลกรัม ก็ถือว่าอุ้ยอ้ายพอทน แม่เอ๋ค่อย ๆ ปีน เอ้ย เดิน ใช้คำว่าเดินหรือปีนดีนะ น่าจะปีน มากกว่า  พอปีนกลับขึ้นมาบนหมู่บ้านได้แล้ว เริ่มลำพองใจ ฮึ ฮึ ….คราวนี้คือไต่ขึ้นบันไดมาจนถึงถนนเส้นหลักหน้าโบสถ์ของหมู่บ้าน        มีทางขึ้นไปบนบ้านชาวบ้านอีก  ซึ่งก็เป็นบ้านคน  ที่สร้างตามภูเขาเหมือนขั้นบันได แม่เอ๋นึกสนุก ก็เดินขึ้นไปดู เพราะเห็นอาม่านั่งผิงแดด 


ภาพถ่ายโดยแม่เอ๋เองค่ะ





ช่วงบ่ายสี่โมงเย็น ซึ่งอีกไม่นาน อากาศคงจะเย็นลงเรื่อย ๆ แม่บ้านชาวอาข่าเริ่มหุงหาอาหาร แม่เอ๋เดินขึ้นไปดูบ้านที่แม่เฒ่านั่งผิงแดด ก็ไปเจอพี่ผู้หญิงที่เคยเจอบ่อย ๆ


ภาพศาลากลางบ้านของอาข่า แม่เอ๋ถ่าย



 ที่ศาลาหมู่บ้านหน้าโบสถ์  จุดศูนย์กลางที่ชาวบ้านมานั่งพูดคุยกันอย่างเพลิดเพลิน  ปักเย็บผ้าบ้าง  เอาเด็กเล็ก ๆ มาเลี้ยงด้วยกัน   มีความอบอุ่นเอื้อเฟื้อ    ดูแลกัน สามัคคีกัน ทุก ๆ วัน พอแม่เอ๋เจอพี่สาวผู้คุ้นเคยหน้า แต่ไม่รู้หรอกว่าชื่ออะไร ต่างคนต่างเรียกกันพี่  แม่เอ๋ขอเดินไปชมในครัวและถามไถ่พูดคุย    


ภาพถ่ายโดยแม่เอ๋เองค่ะ



     พี่สาวทำอะไรกิน พี่สาวอาข่าใจดี ก็ตอบว่าทอดไส้กรอกให้ลูก ส่วนตัวเธอและผู้ใหญ่ในบ้านคนอื่น ๆ นั้น ยังนึกเมนูไม่ออก ฉันชอบครัวบ้านพี่สาวใจดีคนนี้ สะอาดเเละเป็นระเบียบดีจัง ฉันขอเธอถ่ายภาพครัวของอาข่า  


ภาพถ่ายโดยแม่เอ๋เองค่ะ




     ฉันชวนพี่สาวใจดีไปดูผักบ้านป้า ที่อยู่อีกฝั่งถนนตรงกันข้ามกับบ้านพี่สาวใจดี ป้าพูดไทยไม่ได้ พูดได้แต่อาข่า 




ภาพถ่ายโดยแม่เอ๋เองค่ะ




ภาพถ่ายโดยแม่เอ๋เองค่ะ




      พี่สาวพูดไทยได้ พี่สาวขอเก็บผักของป้าให้ฉัน ป้าช่วยเก็บผักให้เยอะเลยสามสันก็น่าจะกินไม่หมด  หลังจากนั้นป้าพาไปดูห้องครัว จริง ๆ แล้ว ป้าคงแค่เดินไปหยิบถุงมาใส่ผัก  ฉันมองเห็นมะเขือเทศ ป้าบอกซื้อมาจากตลาด ป้าแบ่งให้ฉันสามลูก ฉันเลยได้โอกาส ขอพี่สาวใจดีสอนทำน้ำพริกมะเขือส้ม หรือน้ำพริกมะเขือเทศ


ภาพถ่ายโดยแม่เอ๋เองค่ะ



 ฉันถามพี่สาวใจดีว่ามีอะไรบ้างที่เราจะใส่ลงไปในน้ำพริก พี่สาวหยิบทุกอย่างที่ใช้ทำมาวางอย่างคล่องแคล่ว


ภาพถ่ายโดยแม่เอ๋เองค่ะ



วัตถุดิบ

  1.มะเขือเทศ

  2.กระเทียม

  3.เกลือ

  4.พริกสด

  5.หอมชู ถ้าไม่มีก็ผักชีไทย ได้เลยค่ะ


ภาพถ่ายโดยแม่เอ๋เองค่ะ


ภาพถ่ายโดยแม่เอ๋เองค่ะ



   พี่สาวใจดี เล่าให้ฟังว่าคนบนดอยกินง่าย อยู่ง่าย กินอะไรที่เป็นแบบธรรมชาติ ไม่ใส่เครื่องปรุงเยอะแยะอะไร มีแค่เกลือเป็นเครื่องปรุง ในระหว่างนั้นเธอก็โยนมะเขือเทศเข้าเตาถ่าน และโยนพริกเขียวตามให้ไปนอนข้าง ๆ มะเขือเทศสุก มีสารไลโคปิน จากมะเขือเทศทำงานเต็มที่ แน่ ๆ ฉันเดาว่าพริกที่เผาชื่อพริกกระเหรี่ยงแน่นอน เนื่องจากเม็ดสั้น ป้อม 



ภาพถ่ายโดยแม่เอ๋เองค่ะ



ขั้นตอนการปรุง


1.นำมะเขือเทศ และพริกกระเหรี่ยงเผาในเตาฟืนที่เป็นถ่านพอสุก แกะเปลือกสีดำที่ไหม้ออก


2.ใส่เกลือประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ นำมะเขือที่เผาสุกและแกะเปลือกสีดำออก ใส่ลงในครก พร้อมพริกที่เผาแล้ว ตำจนละเอียด พี่สาวใจดีบอกยิ่งละเอียด ยิ่งอร่อย  เวลาตำ ตำนาน ๆ หน่อย



แม่เอ๋ถ่ายภาพค่ะ


3. เมื่อตำจนละเอียด  จนพริกมะเขือเทศ  เกลือเข้ากันแล้วก็เติมผักชีใส่ลงไป


4.ตักใส่ถ้วยเสิร์ฟ จัดผักสดและผักลวกใส่จาน อาทิเช่น  ฟักทองนึ่ง ต้นหอม ผักสลัด ผักที่เก็บในแปลง ที่มีในบ้านกระทั่งสะระแหน่ก็สามารถนำมากินแนมได้


ภาพถ่ายโดยแม่เอ๋เองค่ะ


    ต้นทุนทำในวันนี้ ไม่มีซักบาท เป็นการให้ การแบ่งปันและน้ำใจ พี่สาวชาวอาข่าใจดี  


ถามกับแม่เอ๋ ว่าข้างล่างไม่มีแบบนี้แน่เลยใช่ไหม  แต่แม่เอ๋ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปเพียงแต่  ได้แต่คิดเงียบ ๆ ว่า วัฒนธรรมการแบ่งปัน และการให้ของคนข้างล่างลดน้อยลงไปทุกที  คงเกิดจากวัตถุนิยมและการที่จะต้องหาเงิน  เพื่อดำรงชีวิตอยู่ในสังคมปัจจุบัน  ต้องใช้วิธีการตัวใครตัวมัน  


        การแบ่งปัน  ที่เคยมีมาในคนไทยหรือคนเอเชียก็สูญหายไป  เรื่องการให้ ซึ่งจริงๆแล้วก็สอดคล้องกับรูปวาดบนผนังโบสถ์  ที่พ่อสล่ามาวาดบนดอยจนทำให้แม่เอ๋ได้ขึ้นมาเรียนรู้วิธีการทำน้ำพริกมะเขือเทศ  ที่จะขอจดจำให้ได้  และคงจะไม่ลืมด้วยน้ำใจที่พี่ ๆ เพื่อน ๆ  อาข่ามีให้ครอบครัวของแม่เอ๋  


ภาพถ่ายโดยแม่เอ๋เองค่ะ




ไม่ว่าจะเป็นยอดผักซาโยเต้  ที่มาวางไว้ที่โต๊ะอาหารโดยที่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนเอาให้  กระทั่งผักต่าง ๆ ก็มีคนเก็บมาให้อยู่บ่อยครั้ง ซึ่งภาพวาดที่พ่อศักดิ์มาวาดนี้ เกี่ยวข้องและสอดคล้องกับการแบ่งปันและการให้ครั้งนี้ด้วย  


ภาพถ่ายโดยแม่เอ๋เองค่ะ



ภาพที่พ่อศักดิ์วาด มาจากพระคัมภีร์ พระเยซูทรงเสก ขนมปัง 5 ก้อนกับปลาอีก 2 ตัว ทวีจำนวน ให้คนอพยพราว 5,000 คน ได้กิน  ซึ่ง  ก็เป็นหลักคำสอนของศาสนาคริสต์  เรื่องการแบ่งปันหรือว่ากุศโลบายของคนโบราณ  ในการสอนผู้คนให้รู้จักเมตตาแบ่งปัน  เพื่อความอยู่รอดของมวลมนุษยชาติ  


         แม่เอ๋ได้รับการแบ่งปันความรู้จากเพื่อน ๆ ทุกคน  ได้รับอาหาร เอื้อเฟื้อเรื่องการงานจากเพื่อน ๆ  ได้รับโอกาส  การให้จึงทำให้โลกนี้น่าอยู่  และถ้อยที  ถ้อยอาศัย  ในการอยู่ร่วมกัน  เหมือนคนบนดอยช้าง  ที่หลากหลายเผ่าพันธุ์  แต่อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข  ไม่มีเรื่องไม่มีราว  ไม่มีตำรวจอยู่บนนี้  มีทหารอยู่ที่สูง  แต่ทุกคนไม่เคยมีปัญหาใด ๆ ต่อกัน อาศัยอยู่อย่างสามัคคี    รักกันเหมือนพี่น้องเกรงอกเกรงใจ  ดูแลกัน   นี่คือสิ่งที่แม่เอ๋เห็น   และได้รับ  ในเวลาเกือบหนึ่งเดือนที่มาอาศันอยู่บนดอยช้างแห่งนี้  




ภาพถ่ายโดยแม่เอ๋เองค่ะ




 ความทรงจำนี้จะจดจำตราตรึงในหัวใจของแม่เอ๋  พ่อสล่าทรงศักดิ์  และมายด้าตลอดไป 


YouTube : kakai arts

ติดตามผลงาน 

หรือทักทายกันได้ที่

Line ID : 0946697891

Phone Number : 094 669 7891  


Blog :  https://kakaiarts88.blogspot.com

Facebook Page : แม่เอ๋ kakaiarts

Email  :  kakaiarts@gmail.com



—————-

แม่เอ๋เล่าเรื่องได้ดีขึ้นมากมาย มีคำผิด ตกหล่นนิดหน่อย แต่เรื่องที่เล่าจากประสบการณ์ น่าอ่าน น่าทึ่ง น่าสนใจมาก และเป็นแนวคิดที่ดีงาม เช่น แม่เอ๋ทำโฮมสคูล เลิศมาก วันหลังเล่านะคะว่า จัดการเรียนการสอนยังไงบ้าง 


อาหารมื้อพิเศษในความทรงจำร้านกาแฟและอาหารเจ @ตาก

 อาหารมื้อพิเศษในความทรงจำร้านกาแฟและอาหารเจ @ตาก


      ตากในวันฝนตก    พายุเข้า เป็นช่วงเวลาปลายฝนต้นหนาว ในเดือนตุลาคม     พ่อสล่าศักดิ์  พร้อมแม่เอ๋และลูกสาวตัวน้อย  น้องมายด้า    ได้มีโอกาสเดินทางมาทำงาน ที่จังหวัดตากโดยได้บูรณะพระปูนปั้น  เจ็ดองค์ สามปาง มีปางสมาธิ ปางมารวิชัย และปางปฐมเทศนา  สิบกว่าปีที่แล้วมีช่างทำไว้แล้ว ทำไม่เสร็จ พ่อสล่าศักดิ์มาทำต่อ     


            เนื่องจาก หลวงพ่อสมบูรณ์  ที่ท่านดูแล วัดดอยข่อยเขาแก้ว  จังหวัดตาก ท่านต้องการ บรูณะและมอบให้วัด หรือ สถานปฏิบัติธรรม  ที่ขาดแคลน หรือไม่มีพระประธานในวัด

ภาพแม่เอ๋ถ่ายเองค่ะ



   วันที่เขียน ยี่สิบ ตุลาคม สองพันห้าร้อยหกสิบสาม เป็นวันเกิดของพ่อสล่า  และลูกสาวตัวน้อยของแม่เอ๋  ถือว่าเป็นวันพิเศษวันหนึ่ง  ในวันครบรอบแปดขวบของเธอ   เพราะลูกสาวตัวน้อยพูดถึงวันเกิดตัวเองมาตลอดทั้งปีว่า ในวันเกิดของเธอจะเป็นอย่างไร เธอวางแผน พร้อมออกแบบ จะต้องเป็นวันพิเศษมาก ๆ วันเฉลิมฉลอง  มีของขวัญ  มีเพื่อน ๆ ที่เธอรัก  มาฉลองในวันเกิดของเธอ  แต่วันนี้เธอต้องติดตามพ่อและแม่มาทำงานในต่างจังหวัด  แม่เอ๋คิดว่าเธอคงจะเหงาคิดถึงบ้าน พี่ชาย และเพื่อน ๆ ของเธอแน่ ๆ   


        แม่เอ๋จึงให้มายด้า วางแผนในวันเกิดสุดพิเศษวันนี้  ที่จังหวัดตาก เป็นวิธีที่ให้เธอฝึกสะกดคำ  และฝึกเขียนหนังสือ โดยให้เขียนสิ่งที่ต้องการในกระดาษ เพื่อบอกสิ่งที่เธอต้องการสื่อสารกับแม่และพ่อ  ของขวัญวันเกิดรวมถึงโปรแกรมต่าง ๆ ว่าเราสามจะไปไหนฉลองที่กันดีในวันนี้ช่วงบ่าย ๆ   หลังเวลาที่พ่อสล่าพักมือจากการปั้นงาน  วางแผนสำหรับเวลาสามชั่วโมง เช่น ไปซื้อของเล่นห้าอย่าง ไปร้านกาแฟที่ดีที่สุดในจังหวัดตาก  รายการนี้คงเป็นรายการเอาใจสารถีเป็นแน่ดวงตาของเธอเป็นประกาย หลังจากนั้นก็ไปกินอาหารอร่อย ๆ ก่อนกลับเข้ามาทำงานต่อ เพราะพ่อสล่าห่วงบ้าน ห่วงพี่นารา ลูกชายคนโตที่ฝากป้าให้ดูแลในระหว่าง พ่อแม่มาทำงานไกลบ้าน พ่อสล่าบอกจะรีบทำงานให้เสร็จในสามคืนสี่วัน


     พอถึงเวลานัด สาวน้อยเดินมาชวนพ่อ และแม่เข้าเมืองตากตามที่นัดหมายกัน พ่อวางมือจากงานตามสัญญา  แม่เอ๋เป็นคนขับรถประจำบ้าน  เพราะงานพ่อสล่าหนักแล้ว หน้าที่แม่เอ๋ช่วยขับรถให้พ่อสล่า และจัดการเรื่องอาหาร และลูก ๆ 


    แม่เอ๋ขับรถมาบนถนนตากสิน เรื่อย ๆ เข้ามาทางตรอกบ้านจีน  ซึ่งตอนนี้ไม่คึกคักเหมือนเมื่อก่อนที่ตามจังหวัดต่าง  ๆ จัดและมีถนนคนเดิน   แต่เวลานี้นักท่องเที่ยวที่มา  ก็ยังสามารถชื่นชมสถาปัตยกรรมในตรอกบ้านจีนได้   บนถนนตากสิน  ช่วงกลาง ๆ ของระยะถนน  ดวงตาของแม่เอ๋ก็สะดุดกับป้าย ๆ  นี้   แม่เอ๋ตีไฟเลี้ยวรถทันที  ชิดซ้าย  และจอดเลยจ้า แม่เอ๋ขับนี่เนอะ  อิ อิ  ร้านกาแฟจะอยู่เยื้อง ๆ กับธนาคารกสิกรไทย สาขาอำเภอเมืองตาก บนถนนตากสิน



ภาพแม่เอ๋ถ่ายเอง



ภาพแม่เอ๋ถ่ายเองค่ะ



ภาพแม่เอ๋ถ่ายเอง


      พอเข้ามาในร้าน แม่เอ๋และมายด้า นั่งไม่ติดเก้าอี้เลย เพราะร้านแต่งสวยมาก ร้านตกแต่งอบอุ่นสไตล์วินเทจ มีความเป็นอังกฤษมาก ๆ แนววินเทจ ร้านตกแต่งแบบฝรั่งผสมจีนไทยอย่างลงตัว พี่เจ้าของร้านเป็นผู้หญิงสาวที่มีความมั่นอกมั่นใจ  คล่องแคล่ว และอ่อนหวานในตัว  อธิบายความเป็นมาของร้านการตกแต่งร้านรวมถึงอธิบายถึงเรื่องกาแฟ ที่มาของกาแฟจากแหล่งต่าง ๆ ว่ามีความโดดเด่น แตกต่างกันอย่างไรในแต่ละที่


       เหตุผลที่เธอเลือกกาแฟพิเศษจาก starbucks นำมาชงให้ลูกค้าขาประจำได้ชิม ขายในราคาแก้วละแปดสิบกว่าบาท จากในร้านหนึ่งร้อยยี่สิบบาทขึ้นไป  ซึ่งถือว่าเป็นราคาย่อมเยา หากเทียบกับคุณภาพและหากเทียบกับราคาที่เข้าไปนั่งในร้านที่เริ่มต้นแก้วละแปดสิบกว่าบาท ก็ถือได้ว่าเป็นร้านกาแฟที่มีความน่ารักเรื่องราคา รสชาติอีกทั้งการตกแต่ง  และนิสัยใจคอ การโอภาปราศรัย ของเจ้าของร้านอีกด้วย ที่อยากให้คอกาแฟได้สัมผัสกาแฟคุณภาพดี ราคาดื่มได้เรื่อยๆ 


      เจ้าของร้านมีรายละเอียด ขยันคุยในแบบพอดี แม่เอ๋ได้พูดคุยกับเจ้าของร้านไปเรื่อย  ๆ  เรื่องสัพเพเหระเรื่องการตกแต่งร้านรวมถึงเรื่องราวเรื่องแม่น้ำปิงเคยท่วมในเมืองตากไหม  เส้นทางการเข้ามาของน้ำ  มีความเป็นไปได้ไหม  ซึ่งพี่เจ้าของร้านก็ได้อธิบายว่าน้ำแค่ล้นตลิ่ง  แต่ยังไม่เคยท่วมถนนตากสินเลย  ซึ่งได้ฟังแล้วก็รู้สึกสบายใจไปกับพี่สาวเจ้าของร้านด้วย 


            แม่เอ๋ก็ถามถึงความเป็น the best  ที่ป้ายหน้าร้าน เขียนว่า the best coffee in town คืออะไรพี่สาวเจ้าของร้านก็อธิบายว่าเคยมีฝรั่งที่เป็นบล็อกเกอร์ต่างชาติหรือนักเขียนเธอจำไม่แม่น  ได้มาดื่มกาแฟคาปูชิโน่ที่ร้านและได้ชมกาแฟที่ร้านนี้ว่าเป็น the best in town or the best of thailand 


      อะฮ้า….คาปูชิโน่จากร้านแห่งนี้  ซึ่งอันนี้เอง    ที่ทำให้แม่เอ๋  อดรนทนไม่ได้  จะต้องขอลองดื่มกาแฟคาปูชิโน่ในตำนานแล้วซิ   แม่เอ๋ค่อย  ๆ  ยิ้มและบอกพี่สาวเจ้าของร้านว่าอยากลองชิมดูค่ะ   พี่สาวเจ้าของร้านยิ้มกลับพร้อมกับบอกว่า   "ได้เลยจ้า"  

       

           เธอเดินวนไปมาหลังเคาน์เตอร์ประมาณ ห้าถึงแปดนาที ระหว่างนั้นก็มีเสียงไอน้ำพุ่งขึ้นพุ่งลง จากเครื่องทำกาแฟราคาแพง  ที่วางอยู่บนเคาน์เตอร์ แลดูเจ้าของรักและหวงแหน  และดูแล้วพี่เจ้าของร้านคงดูแลเครื่องเป็นอย่างดี 


      ด้านหน้าเคาน์เตอร์มีชั้นน่ารัก ๆ ใส่ชาหลากรสชาติ  หลากกลิ่น  เป็นชาอังกฤษแบรนด์ดัง Twinings กลิ่นรสต่าง ๆ วางในตู้โชว์น่ารักมาก ๆ


ภาพแม่เอ๋ถ่ายเอง


ในระหว่างรอกาแฟมายด้า  ขอซื้อขนมผิงหนึ่งถุง  ส่วนพ่อสล่าเลือกดื่มเอสเพรสโซ่ร้อนหนึ่งช็อต เสิร์ฟพร้อมชาร้อน 1 แก้ว  ซึ่งต่อมามายด้า  ได้เอาขนมผิงลงผสมในแก้วชาใส ๆ จนทำให้กลายเป็นสีขุ่นในเวลาต่อมา  


         สาวตัวน้อยหัวเราะชอบใจในการทดลองครั้งนี้ พ่อสล่ายิ้มเมตตาในความซุกซนและอยากรู้อยากเห็นของลูกสาวตัวน้อย


ภาพแม่เอ๋ถ่ายเอง


  ในระหว่างนั้นเราสังเกตว่าเจ้าของร้านนั้น ใส่แมสอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมาก ในขณะที่มีข่าวโควิด-19 ระบาดจนต้องปิดด่านแม่สอดโชคดีที่ในร้านไม่มีคนเลยเวลานี้  มีแค่เราพ่อแม่ลูกและเจ้าของร้านเพราะเป็นร้านเล็ก ๆ และบ่ายแก่มากแล้ว แม่เอ๋กับพ่อสักมองไปรอบ ๆ ร้านดูการตกแต่งและความน่ารักลงตัวของร้านได้นานมาก ๆ 


ภาพแม่เอ๋ถ่ายเอง


   สักพักกาแฟคาปูชิโน่มาเสิร์ฟเจ้าลูกสาวตัวน้อย เข้ามาขอชิมโฟมนม จากแก้วคาปูชิโน่ของแม่เอ๋ ความแตกต่างก็คือร้านนี้  ตีโฟมนมเอง  ใช้นมสดตี  ทำให้รสชาติแตกต่างไปอีกแบบ  มีความเป็นกาแฟและมีความนุ่มของนมสดผสมกัน หอม อุ่น ซึ่งเหมาะที่จะดื่มในเวลาที่ฝนตกหยุดใหม่ ๆ อากาศเย็นในเวลานี้เลยค่ะ

ภาพแม่เอ๋ถ่ายเอง



  ดื่มไปครึ่งแก้ว   ลูกสาวตัวน้อยชักเริ่มทวงของขวัญวันเกิดถี่ขึ้น   หรือเร่งให้แม่ไปต่อได้แล้ว    จึงจำเป็นจะต้องรักษาเวลาและจ่ายเงิน ค่ากาแฟ และขนม กาแฟคาปูชิโน่ หนึ่งแก้วเอสเพรสโซ่ร้อน หนึ่งแก้ว และขนมผิงหนึ่งถุง ราคา ร้อยสิบบาท 

        

          หากรวมการตกแต่งที่น่ารักแล้ว     บรรยากาศเหมือนดื่มที่ต่างประเทศเลยค่ะ ความพิถีพิถัน     การตกแต่งใส่ใจรายละเอียดของเจ้าของร้าน   นับว่าเป็นการดื่มกาแฟที่คุ้มค่าสำหรับวันนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งร้านที่แม่เอ๋แนะนำ เมื่อมีโอกาสแวะมาอำเภอเมืองตากนะคะเพื่อน ๆ

ภาพแม่เอ๋ถ่ายเอง


      พอตอนกลับ พี่เจ้าของร้านเดินออกมาส่งเราทั้งสามคนพ่อแม่ลูก  พร้อมพูดภาษาอังกฤษกับมายด้า  บอกลากัน  และอวยพรวันเกิดให้แก่มายด้า  "หนูมีความจำเป็นจะต้องไปซื้อของขวัญวันเกิดที่ร้านทุกอย่างยี่สิบ  ก่อนร้านจะปิดค่ะ " มายด้าบอกลาพี่สาวเจ้าของร้านกาแฟเสียงใส 


       เวลานั้นใกล้จะ ห้าโมงเย็นแล้ว  แม่เอ๋ขออนุญาตถ่ายภาพ  และแนะนำช่องยูทูปช่อง kakai arts  ซึ่งแม่เอ๋และพ่อศักดิ์  พยายามทำให้เป็นช่องเกี่ยวกับความรู้ด้านศิลปะ   เทคนิคการใช้วัสดุต่าง  ๆ  นำมาใช้เกี่ยวกับงานศิลปะ   รวมทั้งสัพเพเหระวาไรตี้ 

เล่าการเดินทางไปทำงานตามที่ต่าง ๆ  พี่สาวเจ้าของร้านบอกเดี๋ยวกดติดตามแล้วเราก็ลาจากกันไป


พี่สาวเจ้าของร้านภาพแม่เอ๋ถ่าย


   พอขึ้นรถขับมาได้สักพักหนึ่ง  ก็จอดรถให้  มายด้าและพ่อสล่า ได้ลงไปช้อปปิ้งที่ร้านทุกอย่างยี่สิบบาท  ร้านเลยไปประมาณสามร้อยเมตร มายด้าซื้อตุ๊กตานางเงือกตัวละ ยี่สิบบาท รวมทั้งซื้ออุปกรณ์วาดรูปกากเพชร กาว ปากกาสี สีน้ำตามที่รายการที่วางแผนและเขียนไว้ห้ารายการ สำหรับของขวัญวันเกิดของเธอ ตามที่แม่รับปากสัญญาว่าจะให้


    หลังจากนั้นเราขับรถไปได้ราวสามร้อยเมตร  จ๊ะเอ๋กับร้านอาหารเจ ชื่อร้านมุมอาหารเจ แม่เอ๋หันไปถามพ่อสักว่าตกลงวันนี้วันเกิดพ่อสล่าศักดิ์และมายด้า พวกเราฉลองด้วยอาหารเจแล้วกันเนาะ และเรา สามคนคิดตรงกัน ตกลงกินอาหารเจ ร้านอาหารเจร้านนี้อยู่ตรงหัวมุมถนน ตรงสามแยก ตั้งเด่นสังเกตง่าย ๆ เป็นอาคารไม้สองชั้นอยู่ตรงหัวมุมเลยมีชื่อว่า ร้านมุมอาหารเจ


ภาพแม่เอ๋ถ่ายเองค่ะ


เมื่อเข้ามาในร้าน บรรยากาศของร้าน  เหมือนย้อนไปประมาณยี่สิบถึงสามสิบปีเลยทีเดียว ทุกสิ่งในร้านเหมือนหยุดเวลาไว้   สภาพทำให้หวนคิดไปเมื่อครั้งยังเด็กกับบรรยากาศแบบนี้ มีอาหารให้เลือกรับประทาน สิบกว่าอย่าง ก๋วยเตี๋ยวหมู เย็นตาโฟต้มยำเส้นเล็ก เส้นใหญ่ ลูกชิ้นเกาเหลา จับฉ่ายแกงส้ม ผัดผักผงกะหรี่ หมี่ซั่ว หมูแดงเห็ดหอมสำหรับกินกับข้าว พ่อสล่าศักดิ์และแม่เอ๋ เลือกกินต้มจับฉ่ายและแกงส้ม ส่วนมายด้า เลือกกินหมี่ซั่ว  ซึ่งตอนหลังพ่อขอลองชิม  ติดใจในความอร่อย พูดถึงไม่หยุด แล้วก็บอกว่าเป็นรสชาติที่อร่อยมาก ตอนแรกเข้าใจว่าคงจะจืด แต่เมื่อลองกินเข้าไป  ก็หยุดกินไม่ได้เลย เพราะมีความอร่อย รสชาติกลมกล่อม บรรยายไม่ถูก  ต้องลองมาชิมเองค่ะ


ภาพแม่เอ๋ถ่ายเอง


ภาพอาหารในร้านแม่เอ๋ถ่ายเอง


ภาพต้มจับฉ่ายเจแม่ถ่ายเอง



ภาพถ่ายแกงส้มแม่เอ๋ถ่ายเองค่ะ



หมี่ซั่วต้องมาลอง อร่อยมากจ้า

ภาพแม่เอ๋ถ่ายเอง



ภาพแกงกะทิหน่อไม้แม่เอ๋ถ่ายเองค่ะ


       แกงกะทิหน่อไม้  ยกมาตอนหลัง  เลยอดชิม แต่ก็แอบซื้อใส่ถุงมา  สำหรับกินในพรุ่งนี้เช้านะคะ  พร้อมกับน้ำพริกตาแดงและต้มจับฉ่ายอีก 1 ถุงสำหรับเช้ามื้อถัดไป  ซึ่งก็ถือว่าเป็นมื้อที่  2 ในเทศกาลกินเจ  ที่ได้ตั้งใจว่าปีนี้อยากจะกินเจ  ให้ได้หลาย ๆ มื้อ เท่าที่จะทำได้เพื่อสุขภาพเพื่อตัวเองและเพื่อทำบุญ


      แม่เอ๋แนบแผนที่ร้านมาให้ด้วยนะคะ  ชื่อร้านมุมอาหารเจค่ะ  เพราะอยู่หัวมุมถนนเลย ร้านหาง่าย  ถามใคร ๆ บนถนนตากสินก็รู้ เพราะในเมืองตากมีไม่กี่ร้าน  ที่ทำอาหารเจขายแบบนี้  ซึ่งร้านนี้ในเวลา บ่ายห้าโมงครึ่ง ใกล้ค่ำ อาหารในร้านก็จะขายหมดแล้ว ถามคนขายเจ้าของร้าน บอกเปิดแปดโมงเช้าถึงหกโมงเย็น

แม่เอ๋เดินไปจ่ายเงิน รวมจ่ายค่าอาหารมื้อเย็นกับข้าวสามอย่าง ข้าวเปล่าสามจาน ราคา หนึ่งร้อยยี่สิบบาท น้ำดื่มฟรีจ้า




ภาพแม่เอ๋แคปจากกูเกิลแม็ป


     

    ภายในร้านก็ยังมีมุมวัตถุดิบในการประกอบอาหารเจจำหน่ายด้วย   ไม่ว่าจะเป็น

มาม่าเจ กะปิเจ เนื้อเจ น้ำปลาซอสปรุงรสต่าง  ๆ ที่เป็นอาหารเจ   มีให้เลือกมุมหนึ่ง




ภาพแม่เอ๋ถ่ายเอง


ภาพบรรยากาศในร้านแม่เอ๋ถ่ายเอง



    การกินอาหารค่ำในวันพิเศษวันนี้เป็นการฉลองวันพิเศษ   ที่มีความหมายมาก  แต่ก็ยังไม่เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะในวันนี้  ลูกชายคนโตไม่ได้มาด้วย หากมีพร้อมหน้า พร้อมตา พ่อ แม่ ลูกชายคนโต และลูกสาวคนเล็ก   คงจะมีความสุขกว่านี้แน่  ๆ  ว่าแล้วเราสามคน ก็รีบกินข้าวเย็นและกลับไปทำงานต่อ เพื่อที่เราจะได้รีบกลับไปหา พี่นาราของมายด้า  ที่บ้านแสนรักไว ๆ


—————-

ว้าว ๆ 9000 กว่าอักขระค่ะ จากเมื่อก่อน โวยวายหนักมากหนูจะเขียนให้ถึง 3000 ได้ยังไงคะ 

👍 แม่เอ๋เล่าเรื่องได้ดีแล้วค่ะ เนื้อหาต่อเนื่องดี ไม่สับสน ไม่วกวน ไม่มียืดเยื้อ 

👍 ถ่ายรูปประกอบเองด้วยเยี่ยมมาก ๆ ค่ะ

👍 การสะกดคำถูกต้องผิดน้อยมาก ต่างจากเมื่อก่อนเยอะ


🎯 แก้ไขเรื่องการจัดย่อหน้าบางย่อหน้าเนื้อหายาวเกินไป พยายามตัดแบ่งให้สั้นกว่านี้ เพราะว่าคนอ่านส่วนใหญ่อ่านจากมือถือ ถ้าย่อหน้ายาวเกินไป เค้าจะอ่านลำบากค่ะอ่านยาก

🎯 แก้ไขการเขียนชื่อหรือคำบางคำให้สม่ำเสมอตลอดทั้งบทความ

🎯 รูปแรกของบทความควรเป็นรูปเด่น ๆหรือรูปสวย ๆ ของร้านกาแฟที่เรารีวิวค่ะ


👉 ร้านกาแฟสวยมากค่ะ ลักษณ์ชอบพื้นไม้ แบบว่าลงรักพื้นไม้หนักมาก

👉 ตอนแรกเห็นรูปพ่อสล่า คิดว่าหุ่นขี้ผึ้งในร้านกาแฟ 


แก้ไขแล้วค่ะอยากเก็บคำครูไว้อ่านค่ะพี่ลักษณ์ไม่ลบได้ไหมคะ